พบซากพะยูนเพศผู้ขนาดใหญ่ยาว 2.4 เมตร หนักประมาณ 400 กก. ลอยตายระหว่างเกาะปู-เกาะไม้ไผ่ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี สภาพยังสมบูรณ์ พบบาดแผล คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. ส่วนที่ทะเลตรัง พบลูกพะยูนน้อยวัยประมาณ 6 เดือนตายอีกตัว เจ้าหน้าที่เร่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ทั้งนี้ถือเป็นพะยูนตัวที่ 8 แล้วที่ตายลงในทะเลตรังในปี 2562 นี้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.ค. 62 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานเกาะไม้ไผ่ ว่า ชาวประมงพื้นบ้าน จ. กระบี่ พบซากพะยูนขนาดใหญ่ ลำตัวยาวกว่า 2 เมตร ลอยอยู่กลางทะเลระหว่าง เกาะปู ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง และเกาะไม้ ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จึงได้ทำการตรวจสอบ พบเป็นพะยูนเพศผู้ตัวโตเต็มวัย ความยาว 2.4 เมตร น้ำหนักประมาณ 400 กก. สภาพยังสมบูรณ์ ไม่มีกลิ่น และบาดแผลใดๆ เขี้ยวยังอยู่ครบ คาดว่าตายมาแล้วไม่เกิน 24 ชม.
เบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายได้ เจ้าหน้าที่จึงใช้เรือลำเลียงซากส่งไปตรวจพิสูจน์ที่ คณะวิทยาศาสตร์และการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
ด้านนายเสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ซากพะยูนตัวดังกล่าวเป็นตัวที่ 2 ที่พบตายในพื้นที่ จ. กระบี่ โดยตัวแรกพบที่ชายหาดในตำบลเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลการผ่าพิสูจน์ซากพบว่า กระเพาะและลำไส้พบสารอาหารสมบูรณ์ ไม่พบรอยช้ำหรือการถูกทำร้าย ส่วนเขี้ยวที่ถูกนำไปก่อนหน้านี้นั้น สันนิฐานว่าเป็นการตัดไปภายหลังการตาย สัตวแพทย์จึงลงความเห็นเป็นการตายอย่างเฉียบพลัน โดยผิดธรรมชาติ
ส่วนสาเหตุที่พบซากสัตว์ทะเลหายากเช่น วาฬ โลมา เต่า และพะยูนบ่อยครั้งในทะเลจังหวัดกระบี่ในช่วงนี้ สืบเนื่องจากอยู่ในช่วงมรสุม เมื่อสัตว์ในทะเลเกิดการตาย ก็จะถูกคลื่นซัดลอยมาเกยตื้นที่ฝั่งจังหวัดกระบี่ ซึ่งพะยูนตัวที่พบล่าสุดนี้ อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่นำซากไปผ่าพิสูจน์ที่คณะวิทยาศาสตร์และการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง คาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้
ต่อมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง นางสาวพัชราภรณ์ แก้วโม่ง นายสัตวแพทย์ ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เร่งทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการของพะยูนจำนวน 2 ตัว คือ พะยูนเพศผู้ลอยตายอยู่กลางทะเลที่บริเวณระหว่างเกาะปู กับเกาะพีพี จ.กระบี่ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งมี่ขนาดความยาว 2.99 เมตร น้ำหนัก 400 กก.
และพะยูนน้อยเพศผู้ อายุประมาณ 6 เดือน ความยาวประมาณ 120 เมตร น้ำหนักประมาณ 35 กก. ตายมาแล้วประมาณ 2 วัน ในสภาพมีอวัยวะครบถ้วน แต่ท้องแตกไส้ทะลัก ที่พบเกยตื้นตายตัวล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.53 น. ของวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณแหลมจูโหยกับเกาะนก ต.ลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขณะนี้ ต้องรอการสรุปผลการผ่าพิสูจน์อย่างเป็นทางการของทีมสัตวแพทย์ที่ต้องรายงานให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ถือเป็นพะยูนตัวที่ 8 ที่ตายลงในทะเลตรังในปี 2562 นี้ และถือเป็นพะยูนวัยเด็กตัวที่ 4 โดย 3 ตัวแรก แบ่งเป็นตายเนื่องจากความผิดปกติของร่างกายหรือป่วยตาย 1 ตัว
เกยตื้นตายเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา 1 ตัว และตายไม่ทราบสาหตุ 1 ตัว ส่วนล่าสุดตัวที่ 8 อยู่ระหว่างการรอผลจากทีมสัตวแพทย์ ส่วนพะยูนตัวใหญ่ตายรวม 4 ตัว
ที่สำคัญ พะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 70 ปี ที่พบเกยตื้นตายเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา พบมีการตัดเขี้ยวอีกด้วย