News
-
Home
-
สิ้นยามีล ตายตามมาเรียมไปอีกตัว
สิ้นยามีล ตายตามมาเรียมไปอีกตัว
หนีไม่พ้นชะตากรรม พะยูนกำพร้า ยามีล ช็อกตายหลังเข้ารับการผ่าตัดเอาก้อนหญ้าทะเลอุดตันออกได้ไม่กี่ชั่วโมง โดยเมื่อตอนสายวันที่ 22 ส.ค. เพจเฟสบุ็ก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) เปิดเผยผลการตรวจรักษาพะยูนยามีลว่า เช้านี้ยังมีการสะสมของแก๊สในกระเพาะอาหารและบริเวณลำไส้ มีอัตราการเต้นของหัวใจสูงและชักเกร็งเป็นบางครั้ง จึงให้ยาช่วยช่วยลดอาการปวดเละยาซึม ส่วนผลเอกซ์เรย์พบว่าอาหารส่วนที่เป็นของเหลวเคลื่อนที่ผ่านระบบทางเดินอาหารได้ แนวทางการรักษาวันนี้จะพยายามนำอาหารซึ่งเป็นหญ้าทะเลที่ค้างในกระเพาะออกมา เพื่อลดการหมักหมม และให้สารน้ำและเกลือแร่ผ่านทางท่อให้อาหารร่วมกับการใช้ยาปฎิชีวนะ สถานะยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ขณะที่มีประชาชนเฝ้าติดตามอาการ ยามีล เป็นจำนวนมาก มีผู้กดไลค์ถึง 6,000 คน และมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึง 1,000 คน ส่วนใหญ่ให้กำลังใจน้องยามีลให้หายป่วยโดยเร็ว รวมทั้งให้กำลังใจทีมสัตวแพทย์ในการรักษาเยียวยาพะยูนน้อย
ต่อมาเวลา 17.00 น. ทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทะเลอันดามัน ร่วมกับทีมแพทย์ รพ.วชิระภูเก็ต นำยามีลขึ้นรถพยาบาลไปทำการผ่าตัดที่ รพ.วชิระภูเก็ต โดยใช้กล้อง Endoscope สอดเข้าทางหน้าท้องผ่าตัดเอาก้อนหญ้าทะเลอัดเเน่นในกระเพาะอาหาร ใช้วิธีการเป่าลมให้กลุ่มหญ้าในลำไส้สลายตัว แต่ทำได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณหญ้าที่อุดตันก็ต้องหยุด เพราะเกรงร่างกายยามีลจะรับไม่ไหว จากนั้นเจ้าหน้าที่นำร่างยามีลห่อผ้าชุบน้ำนำกลับบ่ออนุบาลเพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด อาการอุดตันของก้อนหญ้าทะเล ทีมสัตวแพทย์คาดว่าเกิดจากสภาวะลำไส้หยุดทำงาน ที่พบได้ในเด็กทั่วไป ทำให้อาหารในระบบทางเดินอาหารไม่เคลื่อนที่ เป็นสาเหตุให้เกิดการสะสมและเกิดการสร้างแก๊สในระบบทางเดินอาหาร ส่งผลให้ผนังลำไส้บางลง และเกิดการแตกของเส้นเลือดฝอย เกิดภาวะการติดเชื้อตามมา แก๊สที่เกิดขึ้นยังดันบริเวณปอด ทำให้การหายใจติดขัดด้วย
หลังถูกนำกลับมาไว้ที่บ่ออนุบาล ยามีล มีอาการซึม เคลื่อนไหวน้อย ระหว่างลอยตัวอยู่ในน้ำต้องมีสัตวแพทย์คอยอุ้มตลอดเวลา กระทั่ง 20.30 น. ยามีลมีอาการช็อก สัตวแพทย์ช่วยกันทำซีพีอาร์ยื้อชีวิต แต่ไม่สำเร็จ ยามีลจากไปอย่างสงบ
เมื่อเวลา 21.35 น. จบชีวิตพะยูนน้อยคู่ขวัญ มาเรียม อย่างน่าเศร้าใจ ส่วนความคืบหน้าการสตัฟฟ์ มาเรียม ที่เสียชีวิตจากการกินขยะพลาสติก เพื่อประโยชน์ในการศึกษา และเป็นเครื่องเตือนใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในทะเล ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ ผอ.พิพิธภัณฑ์ธรรมขาติวิทยา กล่าวว่า ทีมนัด Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญด้านสตัฟฟ์สัตว์ขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ(อพวช.) กำลังวางแผนและหารือถึงวิธีการที่เหมาะสมที่สุด คาดว่า จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ
นายวัชระ สงวนสมบัติ ผอ.กองวัสดุอุเทศธรรมชาติวิทยา นัก Taxidermy ผู้เชี่ยวชาญด้านสตัฟฟ์สัตว์ของ อพวช. กล่าวว่า อพวช.ได้เก็บรักษามาเรียมลูกพะยูนเอาไว้ในห้องแช่แข็งลบ 20 องศา เพื่อคงสภาพผิวหนังไม่ให้เน่าเปื่อย ส่วนการสตัฟฟ์ คือการนำหนังของสัตว์ที่ตายลงมาทำการรักษาสภาพไว้ให้ใกล้เคียงกับตอนมีชีวิต โดยไม่มีโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะ ต้องรอปรึกษากับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายอีกครั้งก่อน ความยากของการสตัฟฟ์ครั้งนี้ คือการรักษาสภาพหนังของมาเรียม เพราะมีไขมันค้อนข้างหนามากแทรกอยู่ ต้องนำหนังผ่านกระบวนการเพื่อให้ไขมันออกจากหนังให้มากที่สุด มิฉะนั้นหนังจะไม่แห้ง ไม่สามารถขึ้นรูปได้ อีกทั้งจะเกิดการเปื่อยยุ่ย ขึ้นรา เน่าเสียได้ง่าย นอกจากการสตัฟฟ์แล้วยังสามารถต่อโครงกระดูกมาเรียมไว้ศึกษาต่อได้ โดยนำหุ่นจำลองไว้หลายๆ ที่
© 2016 ThaiWhales All Rights Reserved.